ตั้งแต่จำความได้ ผมไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองมีความพร้อมสุดๆเรื่องใดเลย จนกระทั่งได้ยินคำสอนที่ว่า…ถ้าเรารู้สึกว่าทำในสิ่งที่เรารู้ดี ความกังวลหวาดกลัวจะไม่เกิดขึ้น
ต้องบอกว่า..รู้ดี กับรู้ทุกเรื่องหมดแล้วไม่เหมือนกัน แม้จะใกล้เคียงกันก็ตาม
ตอนแข่งฟุตบอลสมัยเรียนมัธยม 6 ผมกับเพื่อนๆซ้อมกันทุกหลังเลิกเรียน แต่ซ้อมมากแค่ไหนก็ไม่เคยพอ ถึงเวลาลงแข่งจริง ผมยังรู้สึกกลัวว่าผลการแข่งขันจะไม่เป็นอย่างที่ต้องการ
ความคิดในใจนั่นเหรอ? ถ้ามันเป็นอย่างนั้นล่ะ แล้วเกิดฉันเล่นไม่ดีทีมแพ้ขึ้นมาล่ะ คำถามเหล่านี้ไม่รู้มาจากไหนจู่ๆโผล่ขึ้นมาเต็มพื้นที่ความคิดของเราหมดเลย
ในชีวิตที่ผ่านมา คุณจะรู้สึกว่า..จิตใจมันเหมือนไม่ใช่ของคุณเลย ถ้าจิตเป็นของเรา…เขาต้องไม่กลัวเวลาต้องแข่งขันจริงๆสิ เพราะเราซ้อม เราฝึกตั้งมากมาย ทำไม? เจอสถานการณ์จริงเราควบคุมจิตให้นิ่ง สงบและรู้สึกมั่นใจไม่ได้เลย
ถ้าจิตเป็นของเราจริง เขาต้องรู้สิ…ว่าเราต้องการอะไร จิตควรสนับสนุนให้เราได้ในสิ่งที่ต้องการ แต่ดูสิ..ที่ผ่านมาเหมือนจิตไม่สนใจความต้องการเราและทำแต่สิ่งตรงกันข้ามกับที่ต้องการ ที่กล่าวมาเป็นสภาวะของคนส่วนใหญ่ที่ใช้ชีวิตกับจิตที่ยังไม่ได้ฝึกมา หรือพูดตรงๆก็คือ จิตยังไม่เชื่อง
คำว่าเชื่อง..ไม่ได้หมายความถึงเราฝึกฝนเพื่อสั่งจิตให้ทำงานอย่างที่ต้องการ แต่เราพยายามสื่อสารให้จิตรู้ว่า ชีวิตที่ดีขึ้น การเงิน งานที่มั่นคงจะนำคุณภาพชีวิตและความสุขแบบไหนมาสู่ชีวิต
จิตไม่ได้มองว่าความสุขจากเงินทองหรือทรัพย์สินเป็นสิ่งสำคัญที่สุด จิตเขาเกิดมาเป็นคุณ..เพราะต้องการสูงสุดที่จะ “ตระหนักรู้” ซึ่งสภาวะตระหนักรู้จะทำให้จิตเพิ่มระดับของ “ปัญญา” หมายถึงความรู้รอบและลึกซึ้ง รู้หมดแล้ว ไม่ใช่รู้ดีเฉพาะเรื่องที่ทำอยู่
การจะไปถึงสภาวะปัญญา คือ รู้หมดแล้ว คุณต้องฝึกฝน ต้องทำงานจนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในสิ่งที่กำลังทำ อย่างนี้เรียกว่า-รู้ดี แต่จะสำเร็จเร็ว ง่าย สบายยิ่งขึ้น
เราจะมีชีวิตที่ดีขึ้นเช่นนี้ได้ ต้องฝึกจูนให้จิตเข้าถึงสภาวะปัญญา เพื่อได้รับคำตอบที่มาจากแหล่งพลังงานสูงสุดที่-รู้หมดแล้วทุกเรื่อง หรือที่เรียกว่า อัจฉริยภาพแห่งจักรวาล
ดังนั้น ขณะจิตที่คุณรู้สึกว่า ฉันยังไม่พร้อม..จากนั้นก็พูดออกมาว่า…เอาไว้พร้อมเมื่อไรถึงจะเรียน ถึงจะทำ ถึงจะเข้ากระบวนการ
หากเกิดความคิดเช่นนี้มากๆแสดงว่า คุณมีสติไม่แข็งแรงพอ(ต้องฝึกเพิ่ม) สติไม่แข็งแรงจึงถูกความคิดลวงที่เกิดจากจิตที่สับสนตัวเองลากชีวิตคุณไปในจุดที่ไม่ต้องการ
เมื่อคุณพูดว่า-ไม่พร้อม พลังงานในจักรวาลจะไม่เรียงตัวเพื่อสร้างพลังดึงดูดสิ่งที่ปรารถนาเข้ามาใกล้ชีวิตคุณ
ยิ่งพูดว่า รอก่อน เดี๋ยวก่อน ไม่ตัดสินใจทำเด็ดขาดทันที มันคือการยืนยันว่าคุณไม่ต้องการสิ่งนั้น พลังงานรอบตัวคุณที่มองไม่เห็นจะเป็นแค่พลังเฉื่อยเท่านั้นเอง.
ขอบคุณที่ติดตามนะครับ
🙏 Line @coachtookta https://lin.ee/4z541FkqB