ผมพักที่โรงแรมแห่งนี้ 4 คืน และเช้าวันนี้..คำๆหนึ่งผุดขึ้นมาในใจผมรู้สึกว่าห้องนี้คือ “บ้าน” รู้สึกถึงความเป็นตัวเองที่คู่ควรกับสิ่งนี้
เมื่อก่อน..ไปพักผ่อนและฝึกจิตยังสถานที่ต่างๆ ผมยังมีความรู้สึกเป็นการพักชั่วคราว เป็นห้องพักมากกว่า-บ้าน
วันนี้ไม่เหมือนวันนั้น ผมตื่นขึ้นมาเปิดประตูห้องนอนแล้วเห็นภาพเบื้องหน้า โอ้โห...นี่คือชีวิตของเรา มันรู้สึกเป็นจริง ได้อยู่ในบ้านแบบนี้เรียบร้อยแล้ว
ภาพนี้มาพร้อมกับความรู้สึกว่านี่คือบ้านของเรา มีความรู้สึกบางอย่างเร้าใจให้ผมสื่อสารกับพระเจ้าหรือจิตจักรวาลอย่างที่ใจปรารถนา แล้วท่านก็เข้ามาในความรู้สึกของผม..
“เธอเข้าใจถูกแล้ว บ้าน-คำนี้มีความสำคัญต่อทุกชีวิต การบรรลุสูงสุดคือการกลับบ้าน ความรู้สึกอิ่มและเติมเต็มไปด้วยรัก นั่นแหละบ้านที่เธอและฉันอยู่ด้วยกันเสมอ”
“ใช่ครับ” ผมตอบท่าน “คราวนี้ผมรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ ไม่เคอะเขินเลยครับ ไม่รู้สึกว่าต้องหาเงินอีกเท่าไรถึงจะได้ซื้อบ้านแบบนี้ มันไม่ใช่การซื้อขาย ในตอนนี้มันคือความรู้สึกที่ไปถึงและได้ครอบครองด้วยความรักและคู่ควร”
“เมื่อเธอเห็นคุณค่าชีวิต เธอจะเห็นอะไรอีกหลายอย่างจากข้างในมิใช่ดวงตา เธอจะรู้สึกกับบางสิ่งที่ละเอียดอ่อนและไม่เคยรู้สึกมาก่อน ความรู้สึกเช่นนี้เป็นเครื่องนำทางชีวิตไปในจุดที่เธอปรารถนาอย่างแม่นยำ เพราะความรู้สึกรักและเข้าใจจากประสบการณ์จริงที่เรียกว่าตระหนักรู้ เป็นหนทาง เป็นประตูที่นำเธอมาสู่ฉัน บ้านของเธอ”
“มันน่าแปลกที่คราวนี้ผมไม่ต้องใช้ความพยายามปรับตัวให้เข้ากับที่นี่เหมือนที่อื่นๆ”
“เพราะเธอปรับตัวเองตลอดเวลาไง ผิดพลาดก็เริ่มต้นใหม่นังครั้งไม่ถ้วน มันสำคัญตรงที่เธอกล้าพอที่เริ่มต้นใหม่และทำให้ดีกว่าเดิม แต่..อย่าจงใจทำผิดเพื่อเรียนรู้นะ อันนี้เสียเวลาเกินไป”
ผมรู้สึกเขินที่ท่านทักอย่างนี้ จึงตอบไปว่า “บางทีผมก็รู้สึกแปลกๆแบบไม่คุ้นเคยกับทางใหม่ มันมีหลายเรื่องที่คิดว่าต่อไปจะไม่ได้ทำอีกแล้ว..ใจมันหายครับ เลยพยายามรั้งมันไว้ ทั้งที่รู้ว่านิสัยแบบนั้นควรปล่อยไปจะดีกว่า”
“ดีกว่า..ฉันไม่คิดอย่างนั้นนะ อย่างที่เธอได้เรียนรู้เรื่องปัจจุบันขณะ บางครั้งเธออาจจะรู้สึกว่ายังไม่ดีพอ..นั่นมันคือความรู้สึกจากอดีต เพียงแค่ความทรงจำ
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันมันพอดีสำหรับชีวิตเธอเวลานี้ เธอมาไกลกว่าจุดเดิม แต่ยังไม่ไกลพอที่จะรู้ทั้งหมดในสิ่งที่เธอต้องการ อีกอย่าง เมื่อรู้ความจริงขอนี้แล้วเธอไม่ต้องกังวลว่าจะบอกต่อความจริงกับผู้คนอย่างไร เธอแค่ชี้ทาง..ส่วนเขาจะเดินหรือไม่นั้นไม่ใช่ปัญหาที่ต้องกังวล แม้แต่พยายามผลักดันให้คนอื่นเดินไปในทางที่เธอเดิน ทุกคนจะรู้และเข้าใจเท่าที่พวกเขาอนุญาตให้ตัวเองรู้”
“อะไรคือการอนุญาตให้ตัวเองรู้ความจริง ใครปิดบังซ่อนเร้นความจริงเหล่านี้ มารหรือครับ?”
“ไม่มีมารใดปิดบังความจริงหรอก มนุษย์ทุกคนรู้ดีว่าควรใช้ชีวิตอย่างไร แต่เขาเลือกเอาความกลัวมาบดบังเส้นทางใหม่ของตัวเอง คนทั้งหลายรู้ดีในสิ่งที่ควรทำ..แต่ไม่ทำ พวกเขารู้สึกว่าชีวิตที่เป็นอยู่มันดีพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตมากมาย ความ ใฝ่ฝัน จึงกลายเป็นความน่ากลัว เมื่อลงมือทำความฝันให้เป็นจริง พวกเขาต้องละทิ้งวิถีชีวิตแบบเดิมที่ชื่นชอบมากๆ”
“ผมเข้าใจครับ กว่าจะมาที่นี่ได้ผมต้องตัดใจไม่ทำหลายเรื่องที่เคยชอบทำมากๆทั้งที่รู้ว่ามันไม่ดีต่ออนาคต”
“ใช่แล้ว อย่างที่ฉันบอกเธอเสมอ ความสำเร็จไม่ใช่เรื่องหาเงินเพื่อจ่ายให้ได้มา เธอต้องฝึกก้าวข้ามความโกรธ ไม่พอใจ กังวลจากประสบการณ์ที่ทำให้รู้สึกไม่ได้ดั่งใจ
บางเรื่องไม่เกี่ยวกับการหาเงินทอง มันเกี่ยวกับความกล้าที่จะไปถึงสิ่งที่ใฝ่ฝันหรือไม่ ส่วนใหญ่แล้วเป็นเรื่องความกล้าที่จะรักและให้อภัยตัวเองและคนอื่นที่เคยคิดว่าทำร้ายเธอ ตอนนี้เธอได้เห็นความจริงแล้ว พวกเขาเกื้อหนุนให้เธอแข็งแกร่งขึ้นต่างหาก การฝืนใจไม่โกรธและกล้าให้อภัยทำให้เส้นทางใหม่ของเธอราบรื่นขึ้น
ประสบการณ์ใหม่ทั้งหลายที่ไม่เคยพบเจอ คือเส้นทางที่เธอร้องขอ ฉันมอบประสบการณ์เหล่านั้นเพื่อขัดเกลาพลังชีวิตของเธอให้สอดคล้องกับความใฝ่ฝันที่ปรารถนา
เธอจำเป็นต้องรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งและทั้งหมดของความใฝ่ฝัน เมื่อนั้นมันจะเป็นจริง ซึ่งตอนนี้เธอเข้าใจคำว่า เป็นจริง เป็นอย่างไร”
“ใช่ครับ ผมรู้สึกอิ่มเอมใจแบบพอดี ไม่มากไม่น้อยเกินไป รู้สึกไม่เป็นส่วนเกินของเหตุการณ์รอบตัวรวมถึงผู้คนที่พบเจอ รู้สึกว่าใครเก่งก็ชื่นชม รู้สึกว่าบางคนยังต้องปรับปรุงก็ชื่นชมในความกล้าและอดทนของเขา ผมเองยังต้องฝึกฝนอีกมาก”
“ไม่มีมากหรือน้อย ชีวิตไม่ใช่เรื่องต้องฝึกเพราะคิดว่าตัวเองไม่รู้ เธอสมบรูณ์พร้อมหมดแล้ว..ตอนนี้แค่จดจำตัวเองให้ได้เท่านั้นเองว่าเธอมีพร้อมทุกอย่างแล้ว เมื่อความไม่รู้พลิกขั้วเธอจึงรู้ความจริงทั้งหมดแบบฉับพลัน มันคือการตระหนักรู้
ฝึกใช้สติอยู่กับปัจจุบัน เวลาของเธอมีจริงๆเพียงเท่านี้ ไม่ต้องกังวลว่าจะอีกนานแค่ไหน เพราะเธอมีเวลาเท่าที่รู้สึกในปัจจุบันเท่านั้นเอง”
“ขอบคุณครับ” 🙏❤️
ขอบคุณมากค่ะโค้ช❤️🙏
ขอบคุณบทความดีๆ อ่านแล้วรู้สึกดี รู้สึกตามโค้ช พยายามค้นหาตัวเองอยู่ค่ะ
ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณโค้ชค่ะ รับรู้ได้ถึงคำว่า บ้านค่ะ ❤️🙏🏻
🙏ขอบคุณค่ะ โค้ชโจ้ ทุกๆอักษรถ่ายทอดออกมาสั่นสะเทือนมากๆค่ะ
ขอบคุณมากคะโค้ช รู้สึกทราบซึ้ง มันเบาๆ คะโค้ช
ขอบการเขียนบทความแบบนี้คะโค้ช เบา นุ่มนวล ละเอียดอ่อนๆโยนคะ 🙏💝💯🥰