คุณคิดว่า พรอันวิเศษ คืออะไร?
เมื่อวานก่อนไลฟ์ผมได้คุยกับผู้หญิงท่านหนึ่งทางโทรศัพท์ (ปกติไม่ได้รับสายนอกจากอ่านข้อความ) เธอบอกว่าเคยได้รับพรจากพระเจ้า จากนั้นชีวิตดีขึ้นช่วงเวลาหนึ่ง แล้วมันก็กลับไปเหมือนเดิม
“แล้วตอนนี้ปัญหาชีวิตคืออะไร?” ผมถาม เธอตอบว่า ปัญหาคือยังไม่ได้ชีวิตในแบบที่ต้องการทั้งที่เชื่อว่าเคยได้รับพรอันวิเศษ
ได้ฟังอย่างนั้นผมจึงบอกว่า พรวิเศษนั้นเหมือนท่านให้อาหารที่คุณชอบมาหนึ่งอย่าง โห..ดีใจมาก อยู่ๆมันก็ผุดขึ้นมาแล้วเราก็ได้กินของโปรด หลังจากนั้นเราเก็บแกงเอาไว้ค่อยๆอุ่นกิน มันก็ไม่เหมือนเดิมจนกระทั่งวันหนึ่งแกงที่ได้รับมามันก็เสื่อมรสชาตินั้นไป
ถ้าไม่เข้าใจความจริงเรื่องนี้ คุณจะทุกข์ใจ สิ่งที่เคยได้รับมาจะไม่เหลือความหมาย เหมือนไม่เคยได้รับอะไรเลย เพราะจิตมันจดจ่อกับการสูญเสียจนถอนตัวไม่ขึ้น
ต้องขอบคุณการสนทนากับผู้หญิงท่านนั้น ทำให้ผมนึกถึงความจริงที่ต้องบอกกับทุกคนว่างานโค้ชของเรานั้นกำลังพาทุกคนไปสู่จุดไหนของชีวิต
เดือนก่อน..ได้คุยกับโค้ชชี่ท่านหนึ่ง-เรื่องความสำเร็จ
ถามว่า…”จำตอนที่ลุกขึ้นมาทำกิจการเล็กๆให้มีชีวิตชีวาได้มั้ย?”
เธอตอบว่าจำได้ ตอนนั้นดีใจและตื่นเต้นมาก ได้ทำสิ่งที่อยากทำมานาน รู้สึกว่าสำเร็จแล้ว
“แล้วตอนนี้ล่ะ” ผมถาม
“ตอนนี้รู้สึกมันดิ่งลงอีกแล้ว รู้สึกไม่สำเร็จ” ได้ฟังอย่างนั้นผมจึงถามต่อว่า
“อ้าว..เมื่อกี้พูดว่าสำเร็จแล้ว มาตอนนี้บอกว่าไม่สำเร็จทั้งที่ทำงานอันเดิมที่เคยบอกว่าสำเร็จแล้ว ตกลงคุณเป็นคนสำเร็จหรือไม่สำเร็จกันแน่”
เธอฟังแล้วนิ่งไปสักพักก็ตอบแบบน้ำเสียงไม่มั่นใจนัก “เป็นคนสำเร็จแล้วค่ะ”
ผมอยากจะบอกว่า..ทุกการปรุงแต่งของความคิดจบลงด้วยการตัดสินว่า ฉันคือใคร?
ทุกอย่างเริ่มต้นที่เราคิดและจบแล้วด้วยการตัดสินว่า คุณคือใคร จากนั้นคุณจะนำความรู้สึกที่ได้รับการตัดสินว่าไปปรุงแต่งชีวิต ภายใต้แนวคิดว่า ฉันทำอะไรไม่ได้ และ ฉันทำอะไรได้
ความสำเร็จในชีวิตอยู่ที่คุณเลือกปรุงแต่งชีวิตจากด้านไหนสม่ำเสมอกว่ากัน ถ้านานๆครั้งจะรู้สึกว่าฉันทำได้..ฉันยอดเยี่ยม ชีวิตก็เต็มไปด้วยความผิดหวังเพราะไม่ได้ทำอะไรอย่างที่ควรทำเนื่องจากกลัวความล้มเหลว
จนกว่าจะเปลี่ยนความรู้สึกที่มีต่อตัวเองได้ว่า ฉันทำได้ทุกสิ่งขอเพียงเชื่อใจตัวเองว่าทำได้ หากมีเวลาได้เรียนรู้ ฝึกฝนและทำอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งทุกอย่างต้องฝึก ไม่ใช่แค่อ่านข้อความนี้แล้วชีวิตเปลี่ยนเลย คุณต้องนึกแนวคิดใหม่ไปใช้กับชีวิตอย่างสม่ำเสมอ
เมื่อปีกว่า..โค้ชตุ๊กตาเคยซื้อสลากกินแบ่งในหนึ่งและถูกรางวัลเลขท้ายสองตัว เราเก็บสลากใบนั้นไว้เป็นที่ระลึกถึงความโชคดีจนกระทั่งผมฝากให้น้องไปขึ้นเงินรางวัล
เมื่อวานได้รับข้อความว่า เงินรางวัลได้รับแล้วขอเลขบัญชีจะโอนเงินไปให้
ผมถามโค้ชตุ๊กตาว่า “นำเงินที่ได้รับบริจาคให้โรงเรียนสอนคนตาบอดที่เคยส่งจดหมายมาขอเงินบริจาคดีมั้ย?” เธอตอบตกลง เราจึงบริจาคเงินซึ่งเป็นความโชคดีออกไปยังผู้คนให้ได้รับความโชคดีของเราต่อไป
ผมถามโค้ชตุ๊กตาเล่นๆว่า “เมื่อ 2 ปีก่อน เงินจำนวนนี้ช่วยให้เราซื้อข้าวกินได้นานแค่ไหน” เธอนิ่งไปไม่นานก็ตอบยิ้มๆว่า “น่าจะซักสัปดาห์กว่าๆนะ” ผมได้ฟังก็หัวเราะ นึกถึงภาพตอนนั่งกินข้าวกล่องด้วยกัน นับเงินเหรียญที่สะสมเอาไว้แบ่งกันไปใช้ในบางวัน
คุณนึกถึงภาพที่ผมเล่ามาด้วยความรู้สึกอะไร?
ผมมีแต่ความทรงจำดีๆมากมายนะ เราสองคนไม่เคยรู้สึกขาดแคลนหรือยากไร้ เรารู้สึกตลอดเวลาว่า กำลังลงทุนชีวิตกับความฝันที่กำลังช่วยกันสร้างมันอย่างสม่ำเสมอ..ก็แค่นั้น
เพราะเชื่อว่าเราสำเร็จแล้ว แค่กลับมเล่นเกมชีวิตในมุมมองใหม่ไม่ให้ชีวิตนิรันดร์มันน่าเบื่อเกินไป
ชีวิตก็เหมือนเกมออนไลน์ ถ้าเล่นเกมหนึ่งชนะเลิศไปแล้ว..คุณจะไม่เล่นซ้ำเกมเดิม คุณจะมองหาเกมใหม่ที่ท้าทายกว่าเดิม แพ้..ชนะ ไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป เพราะคุณชนะเลิศในเกมก่อนหน้านั้นมาแล้ว เกมไหนๆก็เหมือนกันหมดสุดท้ายเราเป็นผู้ชนะ
หากคุณจำได้ว่าคุณสำเร็จตั้งมากมายก่อนหน้านี้ เกมที่อยู่ตรงหน้าก็แค่เล่นให้สนุก อยู่กับมัน คลุกกับมัน หัวเราะ ผิดหวัง แล้วทำใหม่อีกครั้ง..สุดท้ายก็สำเร็จเหมือนเดิม
เพราะคนที่จำตัวเองได้ว่าสำเร็จแล้ว ทำอะไรก็สำเร็จเสมอครับ
🙏❤️
สั่นสะเทือนมากค่ะโค้ช ขอบคุณมากๆค่ะ🙏🥰
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากๆค่ะ โค้ชโจ้ 🙏ทุกๆตัวอักษรสั่นสะเทือน ว่า ฉันนี่ล่ะ คือ คนที่สําเร็จ ค่ะ
สำเร็จแน่นอนครับ