มุมมองเรื่องพระเจ้าสำหรับยุคปัจจุบัน เกิดการผสมผสาน 3 แนวคิด นั่นคือวิทยาศาสตร์ จิตวิทยา ฝ่ายจิตวิญญาณ ในอดีตต่างมีมุมมองเรื่องพระเจ้าแตกต่างกันจนหาจุดร่วมไม่ลงตัวกลายเป็นความขัดแย้งที่น่าเศร้าใจ
จนกระทั่งฝ่ายวิทยาศาสตร์เจริญมากขึ้นเรื่อยๆจนก้าวเข้าไปค้นหาเรื่องนามธรรมมากขึ้น อย่างเช่น ควอนตัมฟิสิกส์
ในระดับควอนตัม มนุษย์ได้เห็นมิติของพลังงานที่คนยุคโบราณไม่เคยมองเห็นด้วยตาเปล่า
นักวิทยาศาสตร์ได้พบปรากฏการณ์มากมายที่เกินจะอธิบาย จึงสรุปว่า วิทยาศาสตร์ไม่มีคำว่าบังเอิญ ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากวิธีการสร้างสรรค์อย่างหนึ่งทั้งสิ้น
นักวิทยาศาสตร์เชื่อได้ว่า..มีพลังงานต้นกำเนิดซึ่งมีเจตจำนงแน่ชัดที่จะสร้างทุกสิ่งที่เราเห็นให้ปรากฏขึ้นอย่างจงใจ โดยที่ความรู้ของมนุษย์ไม่สามารถล่วงรู้วิธีการที่พลังแห่งเจตนารมณ์นั้นสร้างได้อย่างไร แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เคยพูดว่า พระเจ้าไม่เล่นทอดลูกเต๋า หมายความว่า พระเจ้ารู้ทุกอย่างว่าต้องทำอย่างไรจึงจะสำเร็จ จึงเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดเจนว่า คนที่ไม่รู้วิธีสร้างสรรค์จะใช้วิธีเสี่ยงทาย เดาสุ่ม ส่วนพระเจ้าไม่ทำเช่นนั้น เพราะท่านรู้หมดแล้วว่าต้องทำอย่างไร
ตอนนี้เราทุกคนได้ภาพของพระเจ้าในแบบที่ดวงตามองไม่เห็นขึ้นมาหนึ่งภาพ นั่นก็คือพลังแห่งเจตนารมณ์ ส่วนภาพที่สองที่จะทำให้เราสัมผัสกับพระเจ้าได้ชัดเจนขึ้นนั่นก็คือพลังความรัก
ผมเชื่อว่าในเวลานี้หลายคนเริ่มเข้าถึงความหมายของคำว่า ความรักคือพระเจ้า กันบ้างแล้ว
หากใครก็ตามเข้าถึงพลังความรักอันบริสุทธิ์เขาย่อมมีพลังสร้างสรรค์อย่างไร้ขีดจำกัด
เมื่อใครคนหนึ่งมีพลังความรักในตัวเอง รักในอาชีพที่เขาทำ ย่อมเกิดพลังดึงดูดให้คนที่หลงใหลสิ่งเดียวกันเข้ามาร่วมกัน เกิดสายสัมพันธ์ด้วยพลังความรักที่มีต่อสิ่งที่ทำหรือชีวิตที่สอดคล้องกัน พลังพระเจ้าย่อมเกิดขึ้นตรงนั้น
ความรัก..ไม่สามารถดำรงอยู่ได้หากปราศจากความจริง
ความจริงจึงเป็นพื้นฐานให้เราเข้าถึงความรักและได้พบพระเจ้าที่อยู่ข้างในตัวเอง
❤️
ขอบคุณมากๆค่ะโค้ช
ขอบคุณครับ