You are currently viewing ชีวิตถูกบดขยี้ เพื่อค้นพบตัวตนที่ยิ่งใหญ่

ชีวิตถูกบดขยี้ เพื่อค้นพบตัวตนที่ยิ่งใหญ่

♨️ เมื่อคืนนั่งดูหนังเรื่อง 7 years in Tibet เรื่องชาวต่างชาติที่หนีจากค่ายเชลยช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โชคชะตานำเขาไปพบกับท่านดาไลลามะองค์ที่ 14 เมื่อครั้งยังเด็ก
 
ผมอยากแชร์สิ่งที่ได้ตระหนักกับตัวเองเมื่อดูหนังเรื่องนี้อีกครั้ง
 
ครั้งนี้ผมได้สัมผัสถึงพลังความเมตตาขององค์ดาไลลามะในหนังเรื่องนี้ และเราทุกคนควรนำมาเป็นพลังในการใช้ชีวิตเมื่อเจอสิ่งที่ไม่ชอบใจ เกลียดใครมากๆ อย่างที่ท่านดาไลลามะยังสามารถอวยพรศัตรูผู้เข้ามารุกรานแผ่นดินด้วยพลังความรักสุดใจ
 
ตอนดูหนังครั้งแรก ผมรู้สึกโกรธแค้นและเจ็บปวดแทนชาวทิเบต แม้ในหนังจะมีคำพูดที่สื่อถึงพลังความเมตตาและความรักที่ยิ่งใหญ่ ในอดีตจิตของผมยังเข้าไม่ถึงความถี่พลังเมตตา ได้ยินคำพูดเหล่านั้นแล้วก็เลยผ่านไป ไม่รู้สึกอะไร มีแต่เกลียดแค้นชิงชัง
.
.
อีกมุมหนึ่งที่ได้เห็นจากหนังเรื่องนี้ พระเอกเป็นตัวแทนของคนที่เต็มไปด้วยความหยิ่งผยอง อัตตาสูง เป็นพวกนักกีฬาที่ต้องการการยอมรับและคำชื่นชม ชีวิตคือการแข่งขัน เอาชนะผู้อื่นโดยไม่สนใจวิธีการถูกผิด
 
ผมได้เห็นวิธีการที่พระเจ้าใช้ขัดเกลาชีวิตคนๆหนึ่งให้เข้าถึงความอ่อนโยนและย้อนกลับมามองชีวิตในอดีตของตัวเองด้วยมุมมองใหม่ ได้คำตอบว่า..
 
หลังถูกบดขยี้จนอัตตาเดิมไม่เหลือซาก มนุษย์จะพบศักยภาพของจิตเดิมแท้
 
สิ่งนี้จะเปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ จิตที่แท้จริงจะเป็นที่พึ่งให้ก้าวเดินต่อไปโดยตัวตนที่แท้จริง แล้วชีวิตที่ดีขึ้นอย่างที่เรียกว่าประสบความสำเร็จจะบังเกิด
.
.
ก่อนจบขอเล่าถึงความรู้สึกผูกพันกับหิมาลัย
 
ฉากที่พระเอกเดินทางมาถึงดินแดนทิเบต ปรากฏภาพขุนเขาสลับถักทอกับประกายแดด จิตวิญญาณข้างในผมตื่นเต้นบอกไม่ถูก น้ำตาไหล นึกถึงความรู้สึกเมื่อครั้งเดินทางไปฝึกจิตที่หิมาลัยต่อเนื่องกัน 4 ปี
 
เป็นการลงทุนครั้งใหญ่ในชีวิตที่ผมกล้ามาก
 
ช่วงนั้น..ชีวิตยังเต็มไปด้วยหนี้สิน แม่ให้เงินจากขายที่ดินมาก้อนหนึ่งพอสะสางหนี้ก้อนนั้นหมดเลย แต่ตัดใจครับ นำไปจ่ายเป็นค่าเดินทางไปฝึกจิตที่หิมาลัย
 
หลายคนถามว่า…ไปแล้วได้อะไร? (เสียดายเงิน) ตอนนั้นผมตอบไม่ได้ เพราะยังไม่เคยไปฝึกจิตแบบนี้มาก่อน
 
ครั้นกลับมาจากหิมาลัยในปีแรก..ก็ไม่ชัดเจนว่าได้อะไรกลับมา ยังต้องลงทุนไปอีกครั้งที่ 2…3…4
 
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องค่าใช้จ่ายนะ ผมแค่รู้สึกว่า..ยังไงต้องมีเงิน เพราะการไปฝึกจิตเป็นเรื่องสำคัญที่แม้อธิบายไม่ได้ว่าไปทำไม แต่ผมเลือกที่จะเชื่อใจตัวเองมากกว่า
.
.
ในบางครั้ง ชีวิต-เป็นสิ่งเหนือคำอธิบาย ไม่ต้องการเหตุผลใดๆ ในขณะที่มนุษย์ติดกับเหตุผลและความคิด
 
หลังจากดูหนังเมื่อคืนจบ ผมได้คำตอบว่า
 
หากไม่ต้องการถูกชีวิตกับความเชื่อผิดๆบดขยี้ เราต้องกล้าทำในสิ่งที่รู้สึกข้างใน ผิดพลาดก็นับผิดชอบ อย่าโทษใครแล้วเริ่มใหม่ให้ดีกว่าเดิม
 
หากยังไม่สำเร็จ..จงหาให้ได้ว่าต้องปรับจูนชีวิตตรงไหน
 
ความกล้าที่จะรักตัวเองนี่แหละ ทำให้หลายคนได้ค้นพบตัวตนแท้จริงที่ยิ่งใหญ่ครับ
 
ขอบคุณครับ 🙏❤️
#ยกจิตยกใจยกชีวิต
0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments