คนเรากว่าจะเข้าใจชีวิตก็ผ่านไปแล้วครึ่งทาง ได้อ่านประโยคนี้แล้วผมนึกต่อว่า ผ่านไปครึ่งทางแล้วเข้าใจชีวิตนับว่าโชคดีมากแล้ว เพราะคนส่วนใหญ่ไม่เคยรู้จักชีวิต ไม่รู้เลยว่าควรใช้ชีวิตอย่างไร?
คำว่า ชีวิต เป็น นามธรรม หมายถึงสิ่งที่มองไม่เห็น
เราคุ้นเคยกับคำว่า ร่างกาย ที่มองเห็น จับต้องได้ ร่างกายที่ไม่ถูกใจเรายังศัลยกรรมให้ดูดีอย่างที่ชอบใจได้ แต่ชีวิตไม่สามารถศัลยกรรม ตัดแต่ง เสริม แก้ไขแบบตามองเห็น การทำให้ชีวิตดีขึ้นกระทำโดยการต่อยอดชีวิตเดิมให้แตกกิ่งก้านใหม่..ออกดอกผลเป็นความสุข มั่งคั่ง
ก่อนที่คุณจะรู้วิธีสร้างสรรค์ชีวิตให้ดีขึ้นอย่างที่ปรารถนา ควรฝึกทำชีวิตให้เหมือนที่ว่างโล่งเตียน ปรับหน้าดินให้ฐานแน่นหนาและโล่งพอจะปลูกสร้างสิ่งใหม่ๆได้
คุณไม่สามารถปลูกสร้างอะไรได้เลย หากพื้นดินรกร้างเต็มไปด้วยความรกรุงรัง แต่..คนเราส่วนใหญ่ พยายามยัดอะไรต่อมิอะไรลงไปในความวุ่นวายนั้น แล้วจินตนาการว่า ว้าว!! มันต้องออกมาดีแน่ๆ
ช่วงสายของวันนี้ ผมโค้ชวางระบบจิตกับโค้ชชี่ท่านหนึ่ง เราได้คุยกันถึงระบบจิตที่ย้อนกลับไปมา บางทีจิตเขาก็หลอกเรา โห..นี่ฉันเปลี่ยนไปแล้วนะ แต่ที่ไหนได้ คุณยังใช้ชีวิตด้วยวิธีการเดิมๆแบบไม่รู้ตัว คิดว่าตัวเองกำลังคิดใหม่ ทำใหม่ พอผลลัพธ์ออกมาก็เข้าใจว่าการฝึกฝนไม่ได้ผล เรื่องนี้เป็นกันมากครับ
ระหว่างคุยกับโค้ชชี่ท่านนี้ ผมรู้สึกว่า..นี่เป็นเวลาที่เธอควรได้สัมผัสประสบการณ์จูนจิตกับอัจฉริยภาพแห่งจักรวาล เพื่อเข้าใจและเข้าถึง ความว่าง สบายใจ ท่ามกลางพายุความคิดที่ฟุ้งซ่าน แม้ยังฝึกไม่เต็มที่ แต่การจูนในวันนี้คงเพียงพอที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้ฝึกฝนต่อไป
การจูนจิตวันนี้เข้าถึงพลังงานได้ดีเยี่ยมครับ แทรกเข้าไปในเซลล์ DNA เข้าถึงระบบการทำงานของจักรวาลที่ทำงานผ่านความว่างเปล่า โค้ชชี่ได้ประสบการณ์และต่อยอดนำไปใช้กับชีวิตได้ในอนาคต แม้ช่วงเวลาที่ผ่านมาโค้ชชี่จะเผชิญปัญหาและคิดว่าแก้ไขได้ด้วยตนเอง
กว่าคนๆหนึ่งจะเข้าใจและนำกฎแรงดึงดูดมาใช้กับชีวิตได้นั้น ต้องเข้าถึงความจริงในภาพกว้าง เห็นหรือสัมผัสการทำงานของจักรวาลที่ทำงานแบบปฏิกิริยาลูกโซ่ พอดีผมตั้งใจจะสอนเรื่องนี้ใน ห้องเรียนโค้ชโจ้ พอได้สัญญาณว่าโค้ชชี่ท่านนี้รับพลังงานในระดับนี้ได้เลยจูนจิตให้สัมผัสพลังงานที่เปิดเผยความจริงเรื่องนี้ให้เธอได้มีประสบการณ์
ส่วนความเข้าใจเรื่องที่จูนกันไปแล้วนำไปใช้งานกับชีวิตได้นั้น ต้องฝึกจิตต่อไปครับ มันจะค่อยๆย่อยสลายความสงสัยและวิญญาณข้างในจะเป็นผู้บอกคุณเองว่าได้เรียนรู้เรื่องอะไร ใช้กับชีวิตให้สำเร็จอย่างไร
วันนี้โค้ชชี่ได้ความเข้าใจใหม่แล้วว่า ช่วงเวลาลำบาก..อย่ารอให้ลำบากที่สุดจึงร้องขอความช่วยเหลือ ในขณะเดียวกันก็ต้องยอมอดทนกับปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เอาแต่ร้องขอตลอดเวลา เรื่องพวกนี้ต้องฝึกเอง เจอเองกับตัว..แล้วจะรู้ว่าศิลปะการใช้ชีวิตที่ลงตัวเป็นอย่างไร ซึ่งคุณจะฝึกฝนและรู้ได้เฉพาะตัวคุณเองเท่านั้น.
ขอบคุณครับ 🙏❤️
ขอบคุณค่ะ